เนื่องจากพระปรีชาสามารถในการปกครองบ้านเมืองของรัชกาลที่
1
ประกอบกับรัชสมัยอันยาวนานพอสมควรของพระองค์
กรุงรัตนโกสินทร์จึงเจริญมั่นคงเป็นปึกแผ่นเข้ารูปเข้ารอย ทั้งในด้านระเบียบการปกครอง การพระศาสนา
ศิลปกรรมด้านต่าง ๆ การพระราชไมตรีกับต่างประเทศและความเข้มแข็งในการป้องกันประเทศมาจนถึงรัชกาลที่เป็นผลให้วรรณคดีในรัชกาลที่ 2
เปลี่ยนแนวทางจากการปลุกใจให้ฮึกเหิมกล้าหาญและตั้งอยู่ในระเบียบแบบแผนและศีลธรรมอันดีมาเป็นการบันเทิงทางใจมากขึ้น เช่น เกิดวรรณคดีนิราศที่เน้นการบรรยายโวหารพิศวาสและโลกทัศน์ด้านต่าง
ๆ เช่น นิราศของพระยาตรัง ฯ นายนรินทร์ธิเบศร์และสุนทรภู่ บทละครก็แต่งขึ้นเพื่อใช้เล่นละคร มุ่งศิลปะการแสดงทั้งด้านกระบวนรำและร้อง
ให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินโดยตรง นิทาน
คำกลอนก็ประสงค์ให้ความบันเทิงไปกับเนื้อเรื่องเป็นสำคัญ เช่น
นิทานคำกลอนเรื่องพระอภัยมณี และเรื่องอื่น ๆ ของสุนทรภู่
แต่อย่างไรก็ดีวรรณคดีในรัชกาลที่
ก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับศาสนาและการสั่งสอนคติธรรมโดยตรงอยู่บ้าง เช่น
วรรณคดีสุภาษิต 3 เรื่อง
กาพย์พระไชยสุริยาของสุนทรภู่และมหาชาติคำหลวง 6
กัณฑ์ ที่แต่งซ่อมใหม่ นอกจากนี้มีการแปลพงศาวดารจีนเรื่องเลียดก๊ก ห้องสิน
และตั้งฮั่น
ในด้านลักษณะคำประพันธ์วรรณคดีในรัชกาลนี้แต่งด้วยร้อยกรองประเภทกลอนและโคลงเป็นส่วนมาก
มีกาพย์และร่ายมาก
ไม่ปรากฏคำประพันธ์ประเภทฉันท์